นี่คือซุปเปอร์ SUV ที่แท้จริงจากทางลัมโบร์กีนีที่เพิ่งเปิดตัวมาช่วงปลายปี 2017 ที่ผ่านมา บอกได้เลยว่านี่คือรถเอสยูวีที่เร็วที่สุดในโลก ณ ขนาดนี้ เป็นเอสยูวีที่สืบเส้นสายมาจากลัมโบร์กีนีอย่างแท้จริง หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมลัมโบร์กีนีจึงผลิตรถเอสยูวีขึ้นมา
มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยเพราะก่อนหน้านี้ทางค่ายนี้ก็เคยผลิต Lamborghini LM002 ในช่วงปลายปี 1980 ซึ่งเป็นเอสยูวีมาแล้ว ส่วนชื่อ URUS ก็มาจากวัวกระทิงดึกดำบรรพ์ ที่ชื่อว่า Aurochs เป็นต้นตระกูลของวัวทั้งมวล เป็นการตั้งชื่อตามแบบฉบับของลัมโบร์กีนี ที่จะนำชื่อวัวนักสู้ในอดีตมาตั้งเป็นชื่อรุ่น
สืบเนื่องจากทางบริษัทต้องการจะสร้างรถเอสยูวีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ยังคงกลิ่นอายอารมณ์การขับขี่ตามแบบฉบับของลัมโบร์กีนี นั่นจึงเป็นที่มาของเจ้า URUS คันนี้ โครงสร้างของตัวรถใช้วัสดุโลหะผสมเหล็กกล้า ทำให้ตัวรถมีความแข็งแรงแต่ยังคงน้ำหนักเบาเพียง 2200 กิโลกรัม ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตามแบบฉบับของลัมโบร์กีนี ห้องโดยสารมีความล้ำสมัยมาก ๆ อย่างกับกำลังอยู่ในห้องนักบินเลยทีเดียว การออกแบบภายในเน้นรูปทรงหกเหลี่ยม
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4 ลิตรให้กำลังสูงสุดที่ 650 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 850 นิวตันเมตรที่ 2,250 ถึง 4,500 รอบต่อนาที โดยเครื่องยนต์สามารถทำรอบสูงสุดได้ถึง 6,800 รอบต่อนาที บอกได้เลยว่าแรงม้าขนาดนี้สามารถขย้ำเอสยูวีบนท้องถนนทุกคันได้อย่างง่ายดาย แม้กระทั่ง Bentley Bentayga เองก็ตาม ตลอดจนซุปเปอร์คาร์บางคัน กำลังส่งผ่านระบบเกียร์เกียร์ อัตโนมัติแปดสปีดลงสู่ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อกระจายแรง
ประสิทธิภาพ
ความเร็วสูงสุดที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 3.6 วินาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 12.8 วินาที ระยะเบรคจาก 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนถึงรถหยุดใช้ระยะทาง 33.7 เมตร และเรามาพูดถึงเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงกัน SUV คันนี้ถ้าวิ่งในเมืองในสภาพรถติดอัตราการสิ้นเปลืองอยู่ประมาณ 6 กิโลเมตรต่อลิตรและถ้าวิ่งบนไฮเวย์ที่สภาพการจราจรไม่ติดขัดสามารถทำความเร็วได้ต่อเนื่องอัตราการสิ้นเปลืองอยู่ที่ 10 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราการสิ้นเปลืองโดยรวมอยู่ที่ 8 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 279 กรัมต่อกิโลเมตร
การออกแบบภายนอก
รูปร่างภายนอกเป็นรถผลิตจริงที่เหมือนกับรถต้นแบบมาก ๆ เป็น SUV ที่เน้นการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เป็นสำคัญมีช่องดักลมขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าเพื่อป้อนเข้าสู่ห้องเผาไหม้แนวเส้นหลังคามีความลาดเอียง มาพร้อมกับกระจกแบบไร้ขอบท่อไอเสียคู่ที่อยู่ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาไฟหน้ารูปแบบตัววายซึ่งออกแบบตามแบบฉบับของรถลัมโบกินี่สมัยใหม่ เป็นรถ SUV ที่มีตำแหน่งเบาะนั่งค่อนข้างต่ำซึ่งจะช่วยในเรื่องจุดศูนย์ถ่วงรถที่ต่ำด้วย เป็นไปตามหลักปกติของการออกแบบรถเพื่อให้รถยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น
ภายใน
หลังจากที่เราพูดถึงเรื่องการออกแบบภายนอกแล้วต่อจากนี้เราก็มาว่ากันต่อในเรื่องการออกแบบภายในห้องผู้โดยสารยังกลับห้องควบคุมของนักบินกันเลยทีเดียว การออกแบบอุปกรณ์ต่างๆภายในยังคงเน้นรูปทรงหกเหลี่ยมตามแบบฉบับของ Lamborghini ไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดต่างๆช่องแอร์จอแสดงผลและอื่นๆอีกมากมาย เบาะนั่งเน้นความสะดวกสบายที่สามารถปรับด้วยไฟฟ้าได้ถึง 12 ทิศทางโดยที่เหมาะหลังสามารถพับเก็บได้
ส่วนราคาในไทย อยู่ที่ประมาณ 24.5 ล้านบาท
ข้อมูลจาก Lamborghini
ท่านสามารถติดตามดูประกาศขายรถมือสองยี่ห้อ Lamborghini ได้ตามลิงค์ที่ให้มาได้เลยครับ
แล้วท่านสามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ รถมือสอง รถบ้านเจ้าของขายเอง รถเต็นท์จากทุกจังหวัด ได้ที่นี่