ข่าวสารรถซุปเปอร์คาร์ รถสปอร์ต รถยนต์ใหม่ ยี่ห้อต่าง ๆ ในเมืองไทย

สวัสดีครับ วันนี้จะพาทุกท่านมาพบกับ  10 อันดับรถ SUV สุดหรูที่แพงที่สุด ที่มีขายในประเทศไทย โดยราคาการจัดอันดับนี้  เป็นราคาเริ่มต้นที่รวมภาษีในประเทศไทยแล้ว  โดยเราจะนำรถ SUV ที่แพงที่สุดของแต่ละแบรนด์  มาจัดอันดับกัน เรามาเริ่มกันเลยนะครับ 

อันดับ 10. Jaguar F-Pace 2.0D AWD Portfolio ราคา  6,000,000 บาท

จากัวร์ เป็นบริษัทผลิตรถยนต์จากแดนผู้ดี (สหราชอาณาจักร) โดยมีฐานการผลิตที่ เมืองโคเวนทรี โดยปัจจุบันบริษัท Tata Motor  ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอินเดีย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่  Jaguar F-Pace 2.0D AWD Portfolio  มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุดที่ 180 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุดที่ 430 นิวตันเมตร เป็นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลไดเร็คอินเจคชั่นเทอร์โบ โดยมีอัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 8.2 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ทำได้อยู่ที่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีการส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 Speed แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ  

อันดับ 9. Audi Q8 55 TFSI quattro S line 

6,799,000 บาท

เอาดี้เป็นบริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน โดยมีฐานการผลิตที่เมือง อิงก็อลชตัทในรัฐบาวาเรีย โดยปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือของ Volkswagen  เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในเยอรมนี และ เอาดี้ก็ยังมีบริษัทลูกคือ ลัมโบกินี่ แบรนด์รถซุปเปอร์คาร์สัญชาติอิตาลี โดยรุ่นรถ SUV ที่ทำตลาดในเมืองไทย เอาดี้ จะอยู่ในซีรีส์ Q   ซึ่งรถ SUV crossover ที่แพงที่สุดของออดี้นั่นคือ Audi q8 นั่นเอง Audi Q8 55 TFSI quattro S line เป็นรถ SUV ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน  v6 ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุดที่ 340 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 500 นิวตันเมตร ที่ 1,370 – 4,500 รอบต่อนาที จับคู่กับ เกียร์ระบบอัตโนมัติ 8 จังหวะ (TipTronic) มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์  นอกจากนี้ยังมีกลไก Quattro with ultra technology ระบบ MHEV เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ แบตเตอรี่ Lithium-ion (BAS) 48V แยกจ่ายไฟฟ้า เพื่อไม่ให้กินกำลังแบตเตอรี่มากเกินไป อัตราเร่งจาก 0 – 100 ภายใน 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อันดับ 8. Land Rover Range Rover Sport PHEV ราคา 7,399,000 บาท

Land Rover  คือผู้ผลิตรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้ออเนกประสงค์ ต้นกำเนิดอยู่ที่เมือง โซลิฮอล ในปัจจุบันมีทาทามอเตอร์ที่เป็นบริษัทแม่เช่นเดียวกันกับจากัวร์  เป็นรถแบบเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV)  ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ มีพละกำลังรวมของเครื่องยนต์ผสมกับระบบ Plug in Hybrid  ให้กำลังสูงสุดที่ 404 แรงม้า ( จากเครื่องยนต์ 300 แรงม้า + มอเตอร์ไฟฟ้า 104 แรงม้า )  พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,000 รอบต่อนาที มีการทำความเร็วจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 6.7 วินาที จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ให้ความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

อันดับ 7 . BMW X7 M50d   ราคา 8,959,000 บาท

BMW  รถหรูจากเมือง มิวนิก ประเทศเยอรมัน แบรนด์คุ้นหูในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน น้อยคนที่จะรู้ว่าบริษัทนี้ เริ่มแรกเป็นบริษัทผลิตเครื่องยนต์อากาศยาน หากพูดถึงจุดเด่น BMW หนึ่งในนั้นคือ เรื่องความทนทานของเครื่องยนต์ BMW X7 M50d ถือเป็นพี่ใหญ่สุดในตระกูล Series X  ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ TwinPower Turbo  ที่ให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 760 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 3,000 รอบต่อนาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ จุดเด่นของ BMW X7 M50d  คือ การส่งพละกำลังจากชุดเทอร์โบแบบหลายสเตจ ออกแบบให้รองรับเบาะนั่งแบบ 3 แถว จุผู้โดยสารสูงสุดได้ถึง 7 คน  

อันดับ 6 . Mercedes-AMG G63 ราคา 14,790,000 บาท

ไม่ว่าจะขับไปที่ไหนก็โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์การดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ค่ายรถสัญชาติเยอรมัน  จากสำนัก AMG ได้ทำการยกระดับความมหาโหดของ SUV รูปทรงรถตรวจการณ์ หากดูผิวเผินคนไม่รู้จักรถคันนี้ ไม่น่าเชื่อว่าราคามันจะแรงได้ถึงเพียงนี้ นอกจากราคาแล้ว Performance ของรถคันนี้ยังมาพร้อมกับสมรรถนะที่เรียกว่า ความแรงน้อง ๆ รถซุปเปอร์คาร์กันเลยทีเดียว กำลังของเครื่องยนต์  V8 ขนาด 4.0 ลิตร biturbo พละกำลังสูงสุด 585 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 850 นิวตันเมตร ที่มาในรอบช่วง 2,500 – 3,500 รอบต่อนาที ที่พร้อมจะพาคุณทะยานจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 4.5 วินาที เท่านั้นเอง

อันดับ 5 . Maserati LeVante Trofeo ราคาประมาณ 15,000,000 บาท

มาเซราติเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ระดับซุปเปอร์คาร์สัญชาติอิตาลี โดยมีต้นกำเนิดมาจากเมือง โบโลญญา  Maserati LeVante Trofeo  ถือว่าเป็นรถ SUV พันธุ์สปอร์ตมาพร้อมกับขุมกำลัง เครื่องยนต์ V8 ขนาด 3.8 ลิตร 580 แรงม้า  แรงบิดสูงสุดที่ 730 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 3.9 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ทำได้โดยประมาณ 304 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อันดับ 4 .Porsche Cayenne Turbo S E-Hybrid Coupé ราคา 

ราคา 18,200,000 บาท 

 

ค่ายรถสปอร์ตฉายาเจ้าชายกบ รถสัญชาติเยอรมันจากเมืองชตุทท์การ์ท โดยปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือของ Volkswagen Group  ล่าสุดปอร์เช่ทำตลาด Cayenne ออกเป็น 2 ประเภท โดยประเภทแรกคือ SUV ที่เป็นรูปทรงแบบดั้งเดิม อีกประเภทคือ Cayenne Coupe ซึ่งจะมีราคาที่แพงกว่า SUV ดั้งเดิม นิดหน่อย โดยตลาดของปอร์เช่ จะผลิต รถปอร์เช่ Cayenne Coupe เพื่อเอาใจลูกค้าที่ต้องการใช้รถประเภท SUV  แต่ยังคงต้องการ การขับขี่ที่เป็น แบบสปอร์ต เอกลักษณ์ของปอร์เช่ ดังนั้นจึงแตกไลน์ผลิตอีกหนึ่งโมเดลคือ Cayenne Coupé Model โดยรุ่นที่แพงที่สุด คือ Porsche Cayenne Turbo S E-Hybrid Coupé นั่นเอง ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Twin Turbo 8 สูบ ขนาด 4.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุดที่ 541 แรงม้า ที่ 5,750 – 6,000 รอบต่อนาที ส่วนแรงบิดสูงสุด 770 นิวตันเมตร ที่ 2,100 – 4,500 รอบต่อนาที โดยมีการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ขนาด 100 กิโลวัตต์ ที่รีดแรงม้าได้สูงถึง 134 แรงม้า โดยมีแรงบิดสูงสุดของมอเตอร์อยู่ที่ 400 นิวตันเมตร ซึ่งทำให้รถคันนี้สามารถรีดแรงม้ารวมกันได้ถึง 670 แรงม้ากันเลยทีเดียว ส่งกำลังไปยังระบบเกียร์ 8 สปีด Tiptronic S อัตราการทำความเร็วจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 3.8 วินาที (Sport Chrono Package) และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 295 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

อันดับ 3 Bentley Bentayga ราคา 21,500,000 บาท

Bentley ค่ายรถ Sport สัญชาติอังกฤษ เป็นอีกหนึ่งบริษัทย่อยของกลุ่ม Volkswagen Group   Bentley Bentayga รถ SUV สุดหรูจากประเทศอังกฤษ ใช้เครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร 542 แรงม้า แรงบิด 770 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์ 8 สปีด อัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ทำได้อยู่ที่ 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

อันดับ 2 .  Lamborghini URUS ราคา 24,000,000 บาท

แบรนด์กระทิงเปลี่ยวที่ขึ้นชื่อในเรื่องของรถซุปเปอร์คาร์  ล่าสุดก็ได้มีการเปิดตัวรถ SUV ที่มีสมรรถนะเทียบเท่ารถซุปเปอร์คาร์ เอาใจลูกค้ามหาเศรษฐีที่ต้องการใช้รถ SUV แต่ยังคงกลิ่นอายความเป็น super car กับค่าตัวที่ 24 ล้านบาท เราจะมาดูกันว่ารถ SUV คันนี้มีดีอย่างไร  URUS ลัมโบกินี่อูรุสเป็นรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูง เปิดตัวครั้งแรกเมื่อช่วงปลายปี 2017  ซึ่งเป็นรถ SUV ซุปเปอร์คาร์คันแรกของโลก เป็นรถที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวระหว่าง DNA ของลัมโบกินี่ กับ รถยนต์อเนกประสงค์ SUV … “อูรุส” เป็นชื่อของวัวป่า เป็นวัวกระทิงสายพันธุ์สเปนแท้ เมื่อประมาณ 500 ปีก่อน ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร Bi-Turbo  รีดกำลังสูงสุดที่ 659 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดมหาศาล 850 นิวตันเมตรที่ 2,250 – 4,500 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ในเกณฑ์รถซุปเปอร์คานั่นคือ 3.6 วินาที อัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 3.6 วินาที  และ 0 – 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลา 12.8 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้เกิน 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อันดับ 1. Rolls-Royce Cullinan ราคาเริ่มต้น   32,900,000 บาท

Rolls-Royce ค่ายรถสุดหรูจากประเทศอังกฤษ ที่ก่อตั้งโดย เฟดริก เฮนรี่ รอยซ์ และ ชาร์ล โรลส์  นอกจากนี้ โรลส์-รอยซ์ ยังผลิตเครื่องยนต์สำหรับอากาศยาน ค่ายรถยนต์ที่สุดแห่งความสมบูรณ์แบบ ที่หลายคนอาจจะเอื้

อมไม่ถึง ซึ่งแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่มหาเศรษฐีทั่วโลกใฝ่ฝันอยากครอบครอง ปัจจุบันกำลังการผลิตของโรลส์-รอยซ์  ทำได้ไม่เกินวันละ 10 คันเท่านั้น เป็นรถยนต์ที่ประณีตทุกขั้นตอน ไม่รีบร้อน เน้นความสมบูรณ์แบบ และ ความพึงพอใจของลูกค้าเป็นที่สุด  Rolls-Royce Cullinan    จึงกลายเป็นรถ SUV ที่มีราคาแพงที่สุด นั่นคือมาพร้อมกับค่าตัวเริ่มต้น 32.9 ล้านบาท ( ย้ำว่าเริ่มต้น ไม่รวมออฟชั่นใด ๆ ทั้งสิ้น ) รถ SUV รุ่นแรกภายใต้แบรนด์ของ  โรลส์-รอยซ์ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V12 ขนาด 6.75 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่ให้กำลังสูงสุด 571 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่  1,600 รอบ/นาที ใช้ระบบการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จุดเด่นของแบรนด์สุดหรูจากเมืองผู้ดี มันคือความปราณีตความใส่ใจในทุกรายละเอียดของรถ เป็นรถ SUV ที่พร้อมลุยทุกสภาพถนน แต่ยังคงรักษาความนุ่มนวลในการเดินทาง  นอกจากรถ SUV สุดหรูแพงที่สุด ในด้านบนเเล้ว ท่านยังสามารถค้นหา รถมือสอง รถบ้านเจ้าของขายเอง เป็นรถ SUV แบรนด์ต่าง ๆ ในราคาที่น่าสนใจ ได้ที่นี่ !