สวัสดีครับ วันนี้สาวกปอร์เช่ห้ามพลาด ! ข้อมูลที่นำเสนอในวันนี้คือ 7 รุ่น สุดคลาสสิค ของ Porsche 911 ที่ผลิตครบหนึ่งล้านคัน เรามาดูกันครับว่า การเปลี่ยนเเปลงของ generations ต่าง ๆ ความเป็นเอกลักษณ์ในการออกแบบ เส้นสายของปอร์เช่ยังคงความคลาสสิคตั้งเเต่ generations มาจนถึง ปัจจุบัน

Porsche 911 รุ่นแรกโชว์ตัวเป็นรถต้นแบบเมื่อปี 1963

Porsche 911 รุ่นแรกโชว์ตัวเป็นรถต้นแบบเมื่อปี 1963
Porsche 911 รุ่นแรกโชว์ตัวเป็นรถต้นแบบเมื่อปี 1963

ใช้รหัสการพัฒนาว่า 901 สืบต่อความสำเร็จจากรุ่น 356 กลายเป็นรุ่น 911 โฉมผลิตจริงเปิดตัวเมื่อปี 1964 รุ่นนี้ มีชื่อเรียกฉายาว่า Horn Grill เนื่องจากเอกลักษณ์ที่มีช่องตะแกรงข้างไฟเลี้ยว สำหรับให้เสียงแตรลอดออกมา ใช้เครื่องยนต์แบบเบนซิน 6 สูบนอน (Flat-6) ระบายความร้อนด้วยอากาศ ความจุ 2.0 ลิตร ผลิตกำลัง 130 แรงม้า ซึ่งมากพอที่จะทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กม./ชม.

 

Porsche 911 รุ่นที่ 2 รหัสตัวถัง G Series เปิดตัวในปี 1973

Porsche 911 รุ่นที่ 2 รหัสตัวถัง G Series เปิดตัวในปี 1973
Porsche 911 รุ่นที่ 2 รหัสตัวถัง G Series เปิดตัวในปี 1973

พัฒนาฐานล้อให้ยาวขึ้น กันชนปรับปรุงให้หนา เพื่อส่งออกไปขายอเมริกาเหนือได้ พร้อมมีเข็มขัดนิรภัย 3 จุด เป็นมาตรฐานครั้งแรก ที่สำคัญสุดคือ รุ่นท็อปโด่งดังด้วยการใช้เครื่องเบนซิน 6 สูบนอน ติดเทอร์โบ 260 แรงม้า และยังมีรุ่นแรงตามมาอีกกับกำลัง 300 แรงม้า พร้อมทั้งออกรุ่นเปิดประทุนหลังคาผ้าใบ หลังคาทาร์ก้า และรุ่นเด็ด Speedster ที่สร้างสมตรฐานให้ชื่อ 911 เป็นที่รู้จักมาก จนมียอดขายสูงสุดในบรรดาปอร์เช่เครื่องระบายความร้อนด้วยอากาศทุกรุ่น

 

Porsche 911 รุ่นที่ 3 รหัสตัวถัง 964 เปิดตัวในปี 1989

Porsche 911 รุ่นที่ 3 รหัสตัวถัง 964 เปิดตัวในปี 1989
Porsche 911 รุ่นที่ 3 รหัสตัวถัง 964 เปิดตัวในปี 1989

เปลี่ยนชิ้นส่วนตัวถังใหม่หมดกว่า 85% เด่นสุดด้วยกันชนแบบชิ้นเดียวกลมกลืนกับตัวถังรถ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบนอน 3.6 ลิตร 250 แรงม้า ที่สำคัญคือ ได้เพิ่มอุปกรณ์ไฮเทคหลายอย่างเช่น เบรค ABS พวงมาลัยพาวเวอร์ ถุงลมนิรภัย และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมเกียร์ทริปทรอนิกส์อันโด่งดัง และได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน

 

Porsche 911 รุ่นที่ 4 รหัสตัวถัง 993 เปิดตัวในปี 1993

Porsche 911 รุ่นที่ 4 รหัสตัวถัง 993 เปิดตัวในปี 1993
Porsche 911 รุ่นที่ 4 รหัสตัวถัง 993 เปิดตัวในปี 1993

ด้วยรูปทรงที่แทบไม่เปลี่ยนแปลง เพราะได้รับความนิยมติดตาไปแล้ว ปอร์เช่จึงหันไปพัฒนาพื้นฐานใหม่หมด ด้วยการใช้โครงสร้างอะลูมิเนียม รวมถึงล้อแม็กอะลูมิเนียม ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ล้ำหน้ามากในยุคนั้น ที่สำคัญยังใช้เครื่องยนต์ 6 สูบนอน ติดเทอร์โบคู่เป็นครั้งแรก และนับเป็นปอร์เช่รุ่นสุดท้าย ที่ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ จึงเป็นรุ่นที่นักสะสมตามหา เพื่อจะได้เก็บแก่นแท้ของจิตวิญญาณในรุ่น 911

 

Porsche 911 รุ่นที่ 5 รหัสตัวถัง 996 เปิดตัวในปี 1997 ทำตลาดเป็นรุ่นปี 1998

Porsche 911 รุ่นที่ 5 รหัสตัวถัง 996 เปิดตัวในปี 1997
Porsche 911 รุ่นที่ 5 รหัสตัวถัง 996 เปิดตัวในปี 1997

  นับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของตระกูลนี้ ด้วยการใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ทำให้เครื่องสร้างกำลังได้สูงสุด 300 แรงม้า และยังกินน้ำมันน้อยลง เสียงเครื่องเดินเรียบเงียบนิ่ง ขยายฐานล้อให้ยาว เน้นการเซ็ตรถให้ขับง่ายสะดวกสะบายมากขึ้น และมีไฟหน้าดีไซน์ฉีกแนว

 

Porsche 911 รุ่นที่ 6 รหัสตัวถัง 997 เปิดตัวในปี 2004 ทำตลาดเป็นรุ่นปี 2005

Porsche 911 รุ่นที่ 6 รหัสตัวถัง 997 เปิดตัวในปี 2004 ทำตลาดเป็นรุ่นปี 2005
Porsche 911 รุ่นที่ 6 รหัสตัวถัง 997 เปิดตัวในปี 2004 ทำตลาดเป็นรุ่นปี 2005

มีรูปทรงย้อนกลับไปในยุคคลาสสิคอีกครั้งด้วยไฟหน้าทรงกลมรี แยกไฟเลี้ยวออกมาอยู่มุมกันชนแบบรุ่นดั้งเดิม ใช้เครื่องยนต์แรงกว่าเดิมด้วยเบนซิน 6 สูบนอน ความจุ 3.8 ลิตร ทำกำลัง 355 แรงม้า มาพร้อมระบบไฮเทคสุดๆ อย่างเทอร์โบแปรผัน เกียร์ดูอัลคลัตช์ หัวฉีดตรง พร้อมช่วงล่างแบบแปรผันความแข็งอ่อนได้ นับเป็น 911 รุ่นที่ขายดีที่สุดตลอดกาล

 

Porsche 911 รุ่นปัจจุบันลำดับที่ 7 รหัสตัวถัง 997 เปิดตัวในปี 2011 ทำตลาดเป็นรุ่นปี 2012

Porsche 911 รุ่นปัจจุบันลำดับที่ 7 รหัสตัวถัง 997 เปิดตัวในปี 2011 ทำตลาดเป็นรุ่นปี 2012
Porsche 911 รุ่นปัจจุบันลำดับที่ 7 รหัสตัวถัง 997 เปิดตัวในปี 2011 ทำตลาดเป็นรุ่นปี 2012

เข้าสู่ยุคประหยัดน้ำมัน ลดมลพิษ ด้วยการลดความจุเครื่องยนต์ลงเหลือ 3.0 ลิตร แต่ยังมีกำลังแรงม้ามากกว่าปกติ โดยสร้างมาตรฐานใหม่ของทวินเทอร์โบ ด้วยกำลังที่ 370 แรงม้า ในรุ่นเริ่มต้น และยังแรงไปได้ถึง 420 แรงม้า ในรุ่นคาเรร่า

—————–

อ่านต้นฉบับ: boxzaracing.com
ประกาศขาย รถมือสอง รถบ้านมือสองทุกจังหวัด รถบ้านเจ้าของขายเอง เชิญที่นี่
ไม่ว่า Porsche มือหนึ่ง หรือ มือสอง ก็ยังคงความคลาสสิคมาจนถึงปัจจุบัน